วาล์วไดอะแฟรม รุ่น 2031, 2103 และ 2031SS คือวาล์วควบคุมทิศทาง (2/2-way) ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการใช้งานที่ต้องการ การแยกของไหลออกจากกลไกการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ คุณสมบัติเด่นของวาล์วเหล่านี้คือการใช้ ไดอะแฟรม (diaphragm) เป็นตัวกั้นกลาง ทำให้มั่นใจได้ว่าของไหลที่ลำเลียงจะไม่สัมผัสกับชิ้นส่วนกลไกภายในของวาล์วเลย ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการที่ต้องการความสะอาดสูงหรือจัดการกับของไหลที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
วาล์ว รุ่น 2031/2103/2031SS 2/2 way Diaphragm Valves
คุณสมบัติเด่น
วาล์วไดอะแฟรมรุ่นนี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ เริ่มจาก การแยกของไหลออกจากกลไกการทำงานอย่างสมบูรณ์ ด้วยไดอะแฟรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกั้น ทำให้ไม่มีช่องทางที่ของไหลจะรั่วไหลเข้าไปในส่วนควบคุมของวาล์วได้เลย ซึ่งป้องกันการปนเปื้อนทั้งจากของไหลออกสู่ภายนอก และจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ของไหลภายในท่อ เหมาะสำหรับของไหลที่มีความบริสุทธิ์สูง
นอกจากนี้ ตัวเรือนวาล์วยังมี คุณสมบัติการไหลที่ดี (favourable flow characteristics) และ ปราศจากปริมาตรอับ (zero dead volume) ซึ่งหมายถึงไม่มีพื้นที่ให้ของเหลวตกค้างหรือสะสมตัวอยู่ภายในวาล์ว ส่งผลให้สามารถรองรับ อัตราการไหลสูง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้การออกแบบระบบเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย
วาล์วเหล่านี้มีให้เลือกใช้งานร่วมกับ แอคทูเอเตอร์แบบนิวแมติกส์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Classic, รุ่น ELEMENT หรือรุ่นที่ทำจากสเตนเลสสตีลทั้งหมด (full stainless steel) ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ เข้ากันได้กับหัวควบคุม (Control Head) ของ Burkert ทุกรุ่น ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการรวมเข้ากับระบบควบคุมอัตโนมัติของคุณ
ประโยชน์ในการนำไปใช้งาน
การนำวาล์วไดอะแฟรม รุ่น 2031, 2103 และ 2031SS มาใช้ในระบบอุตสาหกรรมนำมาซึ่งประโยชน์ที่สำคัญ:
วาล์วเหล่านี้ช่วย รักษาความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการแยกของไหลออกจากกลไกอย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่มีการปนเปื้อนจากสารหล่อลื่น หรือโลหะจากชิ้นส่วนวาล์ว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมยา อาหาร และชีวเภสัชกรรม นอกจากนี้ยัง เพิ่มความปลอดภัยในการจัดการกับของไหลอันตราย เพราะช่วยป้องกันการรั่วไหลของสารเคมีกัดกร่อนหรือเป็นพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม
ด้วยคุณสมบัติการไหลที่ดีและปราศจากปริมาตรอับ ทำให้สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพการไหลและลดการสะสมตัวของสาร ภายในวาล์ว ซึ่งช่วยให้กระบวนการทำงานราบรื่นและลดความถี่ในการทำความสะอาด อีกทั้งยังช่วยให้การทำความสะอาด (CIP/SIP) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และความยืดหยุ่นในการเลือกใช้อุปกรณ์ร่วมกับแอคทูเอเตอร์และหัวควบคุมหลากหลายแบบ ทำให้การ ออกแบบและติดตั้งระบบทำได้ง่ายและปรับแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งลดต้นทุนและเวลาในการดำเนินโครงการ