วาล์วนิรภัย SV615

คุณสมบัติเด่น

วาล์วนิรภัย SV615 มีคุณสมบัติเด่นที่ความสามารถในการเปิดและปิดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเพื่อระบายแรงดันส่วนเกินออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อแรงดันภายในระบบถึงจุดที่ตั้งไว้ (Set Pressure) สปริงภายในวาล์วจะถูกยกขึ้น ทำให้ลิ้นวาล์วเปิดออกและระบายของไหล (ไอน้ำ ก๊าซ หรือของเหลว) ออกสู่บรรยากาศหรือท่อระบายที่ปลอดภัย จากนั้นเมื่อแรงดันลดลงต่ำกว่าจุดที่ตั้งไว้ในระดับที่ปลอดภัย ลิ้นวาล์วจะปิดลงโดยอัตโนมัติและแน่นหนา เพื่อคงแรงดันที่เหมาะสมภายในระบบ

วาล์วรุ่นนี้ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงที่ทนทานต่อแรงดันสูง อุณหภูมิสูง และการกัดกร่อนจากของไหลที่หลากหลาย ทำให้มั่นใจได้ถึงความแข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนาน และความน่าเชื่อถือในการทำงานภายใต้สภาวะที่ท้าทาย SV615 มักได้รับการออกแบบมาให้มีกลไกที่ช่วยให้การเปิด-ปิดทำได้อย่างรวดเร็ว (pop action) เพื่อระบายแรงดันปริมาณมากได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสภาวะฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับตั้งค่าแรงดันที่ต้องการให้วาล์วทำงานได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการใช้งานในระบบที่มีข้อกำหนดแรงดันแตกต่างกัน

ประโยชน์ในการนำไปใช้งาน

การติดตั้งวาล์วนิรภัย SV615 ในระบบของคุณจะนำมาซึ่งประโยชน์ด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่สำคัญ ประการแรกคือ การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นประโยชน์ที่สำคัญที่สุด วาล์วนิรภัยทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันสุดท้ายในการป้องกันการระเบิดหรือความเสียหายของอุปกรณ์ที่เกิดจากแรงดันเกิน

ประการที่สองคือ การปกป้องอุปกรณ์และโครงสร้าง การรักษาแรงดันภายในระบบให้อยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัยช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และโครงสร้างต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบแรงดันนั้น ลดความเสี่ยงของการชำรุดเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ในระยะยาว

ประการที่สามคือ การปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัย ในหลายอุตสาหกรรม การติดตั้งวาล์วนิรภัยเป็นข้อบังคับตามกฎหมายและมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน วาล์ว SV615 ช่วยให้ระบบของคุณเป็นไปตามข้อกำหนดเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์

วาล์วนิรภัย SV615 เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมและระบบที่มีความสำคัญด้านความปลอดภัยสูง เช่น หม้อไอน้ำและระบบไอน้ำแรงดันสูง, ถังเก็บแรงดันขนาดใหญ่, ระบบปิโตรเคมี, โรงไฟฟ้า, และระบบที่เกี่ยวข้องกับก๊าซอันตราย เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดและการทำงานที่มีเสถียรภาพของระบบในทุกสภาวะ